กรุงศรีฯ นำร่องปล่อยกู้ผ่านแอพพลิเคชันไตรมาส 2 ปี 60 นำร่องบัตรเครดิต-สินเชื่อบุคคล คาดเติบโต 20% ต้นทุนลด 30% แถมคุณภาพหนี้เสียต่ำกว่าครึ่งจากช่องทางปกติ พร้อมเดินหน้าลงทุนเทคโนโลยีเพิ่มหลังบอร์ดอนุมัติเงินลงทุน 30 ล้านดอลลาร์ ตั้งกองทุนเวนเจอร์แคปปิตอล
นายฐากร ปิยะพันธ์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ ด้านกรุงศรีคอนซูมเมอร์ และผู้บริหารสายงานดิจิตอล แบงค์กิ้งและนวัตกรรม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวในไตรมาสที่ 2 ของปี 2560 ธนาคารจะออกโมบายแอพพลิเคชันปล่อยสินเชื่อออนไลน์ หรือ E-Application สำหรับสินเชื่อไม่มีหลักประกัน ทั้งในส่วนของบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุญาตจากธปท.คาดว่าจะเริ่มใช้จริงได้ในไตรมาสที่ 2 ของปีหน้า
แอพพลิเคชันสินเชื่อออนไลน์ ในเบื้องต้นจะเน้นฐานลูกค้าเก่าของธนาคารก่อน โดยปัจจุบันลูกค้าของธนาคารเฉพาะลูกค้าที่ไม่เคยใช้บริการโมบายแบงกิ้งและอินเตอร์เน็ตแบงกิ้งมีอยู่กว่า 2 ล้านราย จะเป็นกลุ่มเป้าหมายแรกที่คาดว่าจะเติบโตจากกลุ่มดังกล่าวประมาณ20% และในระยะต่อไปจะสามารถเปิดกว้างสำหรับลูกค้าธนาคารอื่นได้ที่มีความสนใจ
สำหรับ E-Application นอกจากจะช่วยลดต้นทุนจากกระบวนการสมัครแบบเดิมที่ต้องใช้กระดาษ และผ่านบุคลากรในการตรวจสอบ หากทำผ่านแอพพลิเคชันนี้จะช่วยประหยัดเวลา โดยใช้เวลาเพียง 30 นาที จะรู้ผลการอนุมัติ โดยระบบจะส่งข้อมูลจากระบบออนไลน์ส่งไปยังหลังบ้านของธนาคาร ซึ่งระหว่างทางจะมีการเชื่อมต่อระบบกับบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เครดิตบูโร) สามารถรู้ประวัติลูกค้ารายนั้นทันทีก่อนจะส่งต่อไปยังธนาคาร ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานราว 30%
นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณภาพหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) น้อยลง เนื่องจากลูกค้าที่สมัครผ่านระบบออนไลน์จะเป็นกลุ่มที่มีความต้องการที่แท้จริงและเป็นกลุ่มเฉพาะที่เลือกและให้ความสนใจที่จะเข้ามาสมัครโดยตรงกับธนาคาร ทำให้คุณภาพสินเชื่อจะดีขึ้นกว่าเดิมที่จะมีเรื่องของการเน้นปริมาณยอดสมัครของพนักงาน ซึ่งจากการคาดการณ์จะเห็นเอ็นพีแอลผ่านออนไลน์น้อยกว่าช่องทางปกติประมาณครึ่งต่อครึ่ง แม้ว่าเริ่มแรกยอดสมัครผ่านออนไลน์จะยังไม่มาก แต่เชื่อว่าภายใน 2 ปี จะเห็นการเติบโตแบบก้าวกระโดด
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,210 วันที่ 17 – 19 พฤศจิกายน 2559
“สิ่งที่จะเห็นเป็นรูปธรรมก่อนในปี 2560 จะเป็นเรื่องโมบายแอพพลิเคชันโดยธุรกรรมที่จะทำผ่านสาขาเราจะจับมาไว้ในโมบายทั้งหมด และที่สำคัญการขอสินเชื่อออนไลน์ก็จะทำได้เช่นเดียวกัน โดยกำลังขอแบงก์ชาติและคุยกับเครดิตบูโร เพื่อจะได้เห็นธุรกรรมหน้าและหลัง ซึ่งน่าจะเริ่มใช้จริงในไตรมาสที่ 2 ปีหน้า โดยจะเริ่มจากสินเชื่อไม่มีหลั กประกันก่อน และปีถัดๆไปจะเป็นสินเชื่อมีหลักประกันที่อาจจะซับซ้อนขึ้นมา เพราะมีเรื่องของการประเมินราคา”นายฐากร กล่าว
ขณะเดียวกันในเดือนที่ผ่านมา ธนาคารได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการธนาคาร(บอร์ด) ในการลงทุนในเวนเจอร์ แคปปิตอล วงเงิน 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นการจัดตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ จะเริ่มต้นลงทุนในกองทุน Fund to Fund และขยายต่อไปยังฟินเทคที่สามารถทำธุรกิจในภูมิภาค CLMV คาดว่าภายในสิ้นปีนี้น่าจะได้ชื่อกองทุน
นอกจากนี้การปรับตัวทางด้านเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นในปีนี้และต่อเนื่องไปถึงปีหน้า จะเริ่มต้นด้วยการออกโมบายแอพพลิเคชันที่มีลักษณะคล้ายกับอาลีเพย์ที่จะเน้นเรื่องของไลฟ์สไตล์จากกลุ่มบัตรเครดิต และพัฒนาไปยังกลุ่มลูกค้าอื่น และลูกค้าธนาคารอื่นก็สามารถเข้ามาใช้ได้
ขณะเดียวกันจะมีเรื่องของการนำระบบที่เรียกว่า API มาเชื่อมต่อกับบล็อกเชน เพื่อทำธุรกรรม 2-3 อย่าง เช่น สัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) โอนเงินระหว่างประเทศ ธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศ เป็นต้น และสุดท้ายจะเป็นการลงทุนวางแพลตฟอร์มด้านความปลอดภัยของไซเบอร์ทั้งกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นงานหน้าบ้านและหลังบ้าน
0 ความคิดเห็น